What is Christmas? Find out everything you need to know here
ในเทศกาลแห่งความรักและความสุขนี้ หลายคนถือเอาช่วงวันคริสต์มาสนี้เป็นจุดเริ่มต้นใหม่ของชีวิต
อีกหนึ่งเทศกาลที่สำคัญที่สุดทั้งทางศาสนาและทางใจของชาวคริสต์ จึงส่งผลให้การเฉลิมฉลองมีความยิ่งใหญ่ รวมถึงเรื่องราวต่างๆ ที่ถูกเสริมเติมแต่งเข้าไปมากยิ่งขื้นในช่วงเทศกาลนี้
ดังนั้นที่มาและความสำคัญของวันสำคัญนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง? เราได้สรุปเรื่องราวของวันสำคัญนี้ไว้ในบทความนี้แล้วค่ะ
วันประสูติพระเยซูเจ้า – ทำไมเราถึงได้ของขวัญในเช้าที่ 25 ธันวาคม
อย่างที่หลายคนทราบกันดีอยู่แล้วว่าวันคริสต์มาส คือ ช่วงวันที่มีการเฉลิมฉลองการมาจุติของพระเยซูเจ้า ผู้ที่เป็นบุตรของพระเจ้าผู้สูงสุด ด้วยเหตุนี้จึงทำให้วันพิเศษนี้ไม่ได้มีแค่วันเดียว แต่ชาวคริสต์ทั้งหลายเริ่มเฉลิมฉลองกันตั้งแต่คืนวันที่ 24 ธันวาคมของทุกปี เพราะเชื่อว่าเป็นการเฉลิมฉลองและยินดีก่อนวันที่พระเยซูจะถือกำเนิดขึ้นในเช้าวันถัดไปนั่นเอง โดยการเฉลิมฉลองนี้ได้ถูกจัดขึ้นครั้งแรกในช่วงปี ค.ศ. 330
ตามเรื่องราวที่เล่าขานกันต่อมาเรื่อย ๆ ของการถือกำเนิดของพระเยซูเจ้า รวมถึงเรื่องราวสุดมหัศจรรย์ในคืนก่อนวันที่จะพระเยซูจะกำเนิดขึ้นทำให้ชาวคริสต์มีความเชื่ออย่างสุดซึ้งว่าพระเยซูเจ้าคือของขวัญอันล้ำค่าที่ชาวโลกอย่างเราได้รับ ด้วยความเชื่อและความศรัทธานี้จึงทำให้เรามีการมอบของขวัญหรือแกะของขวัญกันในเช้าวันที่ 25 ธันวาคมของทุกปีนั่นเอง
ทำไมถึงต้องเขียนลงท้าย 2022 ไม่ใช่ 2565 ในวันคริสต์มาส?
อย่างที่เราเข้าใจกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่าเทศกาลอันสำคัญนี้เป็นเทศกาลอันสำคัญของศาสนาคริสต์ และการนับปีแบบพุทธศักราชนิยมใช้กันในประเทศไทยเพียงเท่านั้น ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ว่าทำไมเราถึงได้เห็นข้อความโฆษณาที่ลงท้ายปีแบบคริสตศักราชแทน เช่น ‘Christmas Day 2022’
ซานตาคลอสคือใคร? เบื้องหลังความจริงของคุณพ่อแห่งคริสต์มาสที่น่ารักที่สุด
เราทุกคนทั่วโลกคนจะคุ้นเคยกับภาพจำของชายแก่สวมชุดสีแดง มีหนวดและเคราสีขาวโพลน ที่มักจะแบกถุงของขวัญใหญ่ๆ ไว้ข้างหลังอยู่ตลอดเวลา มักที่จะมาพร้อมกับรถลากที่มีเจ้ากวางเรนเดียร์แสนน่ารักคอยทำหน้าที่เป็นพลขับให้ – ซานตาคลอส เรื่องราวที่หลายคนอาจยังไม่มั่นใจว่าเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องเรื่องสมมติกันแน่ วันนี้เรามีคำตอบมาฝาก
อันที่จริงแล้วซานตาคลอสผู้นี้มีชื่อจริงว่า ‘นิโคลัส’ เป็นนักบุญชาวตุรกีที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นนักบุญที่ใจดีที่สุด ในประเทศเนเธอแลนด์เรียกนักบุญนิโคลัสผู้นี้ว่า “ซินเตอร์คลอส” และถูกเรียกขานต่อมาเรื่อย ๆ จนในที่สุดชื่อนี้เพี้ยนเป็นคำว่า “ซานตาคลอส” โดยชาวอเมริกันนั่นเอง นอกจากนี้ชุดสีแดงที่เราเห็นนั้นอันที่จริงแล้วเกิดจากโฆษณาที่บริษัท Coca Cola ได้สร้างสรรค์ขึ้นมาในช่วงปี ค.ศ. 1930 โดยต้องการให้เกิดภาพจำโดยใช้สีของแบรนด์นั่นคือสีแดงนั่นเองค่ะ
ที่มีของการแขวนถุงเท้าในวันคริสต์มาสเกิดจากเรื่องเล่าของคนสมัยนั้นว่านักบุญนิโคลัสได้พยายามที่จะปีนปล่องไฟเพื่อนำเหรียญเงินไปมอบให้ แต่เหรียญนั้นหล่นลงไปในถุงเท้าที่ตากห้อยไว้ที่หน้าเตาผิงแทน ตั้งแต่นั้นมาจึงมีการห้อยถุงเท้าไว้ในคืนวันคริสต์มาสอีฟนั่นเอง
เทศกาลวันคริสต์มาสที่จัดขึ้นใน USA, UK, ออสเตรเลีย และทั่วโลก
เมืองที่สวยที่สุดสำหรับการฉลองวันคริสต์มาส
การเฉลิมฉลองของเทศกาลนี้ถูกจัดอย่างอลังการในทุก ๆ ปี โดยเฉพาะในประเทศที่นับถือศาสนาคริสต์เป็นหลักอย่างเช่น สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และออสเตรเลีย และยังมีสถานที่อีกมากมายทั่วโลกที่คุณไม่ควรพลาดหากคุณกำลังวางแผนเพื่อไปเยี่ยมชมและท่องเที่ยวกับสถานที่เหล่านี้ หรือใครที่กำลังมองหาสถานที่ที่จะเฉลิมฉลองในช่วงเทศกาลวันคริสต์มาส
เราได้รวบรวม 10 เมืองที่คุณไม่ควรพลาดในคริสต์มาส 2022 นี้มาฝาก
- New York City, USA สถานที่ที่สามารถจัดงานวันคริสต์มาสได้อย่างยิ่งใหญ่ไม่แพ้ชาติใดในโลก
- Bethlehem, West Bank สถานที่ที่เปรียบเสมือนเป็นแดนเกิดของพระเยซูเจ้า คงต้องลองไปดูสักครั้ง
- Lapland, Finland หากคุณอยากที่จะตื่นเช้ามาแล้วเห็นซานตาคลอสอยู่ในทุก ๆ ที่ล่ะก็ เราขอแนะนำฟินแลนด์ ดินแดนแห่งสวรรค์
- The Vatican, Italy นครวาติกันอีหนึ่งสถานที่ที่จะช่วยให้คุณได้เติมเต็มความฝันในการฉลองวันคริสต์มาส
- Prague, Czech Republic เมืองที่โรแมนติกที่สุดในโลก คงเป็นไปไม่ได้ที่เราจะไม่เอ่ยถึงเมืองนี้
- Dublin, Ireland เมืองที่มีกันจัดงานยาวนานถึง 12 วัน
- London, England ความสนุกสนานเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อที่ลอนดอน
Credit: visitlondon.com
- Zurich, Switzerland เมืองแห่งช็อคโกแลต ภูเขา และหิมะ บอกคำเดียวว่าต้องไป
- Vienna, Austria ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่ดีที่สุดที่ควรไปเยือนในช่วงคริสต์มาส
- Strasbourg, France อีกหนึ่งเมืองที่ถูกทำเป็นสถานที่ถ่ายทำหนังในช่วงคริสต์มาสอยู่บ่อย ๆ ดังนั้นมันคงจะน่าเสียดายมากถ้าคุณไม่ได้ไป
หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณผู้อ่านเห็นภาพรวมของความสำคัญในงานวันนี้มากขึ้นค่ะ คุณสามารถอ่านบทความเกี่ยวกับวันคริสต์มาสเพิ่มเติมได้ที่นี่