10 DIY Christmas decorations you can easily make with your kids🧶✂️.

            เทศกาลคริสต์มาสใกล้เข้ามาแล้ว สำหรับน้อง ๆ ที่อยากตกแต่งบ้านและต้นคริสต์มาสให้สวยด้วยตัวเอง ลองชวนผู้ปกครองมาประดิษฐ์ของตกแต่งแบบง่าย ๆ ด้วยกัน รับรองว่าน้อง ๆ ต้องภูมิใจในฝีมือของตัวเอง และไม่ต้องกังวลว่าสิ่งประดิษฐ์ที่แนะนำในวันนี้จะทำยาก รับรองได้ว่าง่ายและสวยมาก มาดูกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง

10 สิ่งประดิษฐ์ของตกแต่งงานคริสต์มาส ง่ายและส่งเสริมความรักในครอบครัว

              สำหรับน้อง ๆ ที่อ่าน 10 สิ่งประดิษฐ์ของแต่งต้นคริสต์มาสด้วยตัวเองที่นำมาฝากวันนี้แล้ว คิดว่าไม่จุใจรู้สึกสนุกอยากทำอีก ก็สามารถชวนผู้ปกครองไปศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องศิลปะงานแฮนด์เมดสำหรับน้อง ๆ เพิ่มเติมได้จากช่องทางออนไลน์ นอกจากจะได้ความรู้เพิ่มเติมแล้ว ยังได้เพิ่มกิจกรรมสนุก ๆ สำหรับครอบครัวด้วย และต่อไปนี้คือ 10 สิ่งประดิษฐ์สำหรับตกแต่งงานคริสต์มาส ถ้าพร้อมแล้วมาทำตามไปพร้อมกันได้เลย

1. ต้นคริสต์มาสจากลวดกำมะหยี่

ม้วนกระดาษให้เป็นรูปกรวยขนาดที่ต้องการ จากนั้นให้นำลวดกำมะหยี่มาพันรอบ ๆ กรวยจากปลายแหลมด้านบนไล่มาถึงฐานด้านล่าง แล้วค่อย ๆ ดึงกระดาษกรวยออก เพียงเท่านี้ก็จะได้ต้นคริสต์มาสจากลวดกำมะหยี่แล้ว ต่อไปก็ถึงขั้นตอนการตกแต่ง ด้วยการตัดกระดาษสีเป็นรูปดาวเกล็ดหิมะ (Snowy Star, Coldy Flake), รูปหัวใจ, รูปพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว หรือรูปอื่น ๆ ตามที่น้อง ๆ ชอบ แล้วนำมาแปะบนต้นคริสต์มาสกำมะหยี่จากนั้นร้อยเชือกด้านบน พร้อมแขวนตกแต่งได้เลย

2. ขนมปังขิงกระดาษ

ขนมปังขิงกระดาษแบบทำด้วยตัวเอง เป็นวิธีที่ง่ายและสนุกมาก คิดว่าน้อง ๆ ต้องชอบตัดกระดาษเล่นกันอย่างแน่นอน ลองเลือกกระดาษสีที่ชอบ ตัดเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมแล้วพับครึ่ง จากนั้นลองวาดตัวคนลงไปครึ่งหนึ่ง หากน้องไม่มั่นใจผู้ปกครองควรช่วยจับมือน้องวาดรูป เพื่อให้น้องเกิดการเรียนรู้ เมื่อวาดรูปแล้วให้ตัดกระดาษตามรอย เมื่อกางกระดาษออกมาจะได้เป็นรูปตัวคน คล้ายขนมปังขิง นำไปแปะลงบนกระดาษแข็งแล้วตัดตามรูปทรงได้เลย ตกแต่งเล็กน้อยด้วยการวาดหน้าตา หรือวาดชุดน่ารัก ๆ จากนั้นร้อยเชือกเพื่อนำไปตกแต่ง

3. บอลไหมพรมคริสต์มาส

งานนี้ต้องขอให้ผู้ปกครองเป่าลูกโป่งให้น้อง ๆ สักหน่อย หากน้องยังเล็กเกินไป แต่ถ้าน้องโตพอแล้วเป่าลูกโป่งเองได้เลย เลือกขนาดไม่ใหญ่มาก เมื่อเป่าเสร็จแล้วให้ทากาวที่ลูกโป่งแล้วน้ำไหมพรม ด้าย หรือเชือกปอ สีสันที่ต้องการพันไปรอบ ๆ ลูกโป่ง ต้องการความหนามากก็ทากาวทับซ้อนไป จากนั้นปล่อยไว้ให้กาวแห้ง สังเกตดูว่าเมื่อไหมพรมเริ่มแห้งและแข็ง ให้เจาะลูกโป่งข้างในให้แตกได้เลย จากนั้นตกแต่งด้วยกระดิ่งอันเล็ก ๆ หรือแปะกระดาษห่อลูกอมสวย ๆ (Paper Candy) ตามความชอบ อย่าลืมร้อยเชือกสำหรับแขวนด้วยล่ะ

4. ลูกบอลเกล็ดน้ำตาลหลากสี

นำลูกบอลพลาสติกใสมาเปิดฝาและหยอดกาวลงไป จากนั้นปิดฝาแล้วกลิ้งลูกบอลไปมาให้กาวติดทั่วด้านในลูกบอล จากนั้นเปิดฝาและใส่เกล็ดน้ำตาลหลากสี หรือโฟมหลากสีเม็ดเล็ก ๆ ลงไป ปิดฝากลิ้งลูกบอลไปมา ให้สิ่งที่เทลงไปติดทั่วลูกบอล จากนั้นร้อยเชือก เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

5. คริสต์มาสบอล

นำลูกบอลพลาสติกขนาดที่ต้องการ มาทากาวด้านนอกให้ทั่ว ๆ และนำไปกลิ้งบนกากเพชรสีที่ต้องการ แต่อย่าลืมสีสัญลักษณ์ของคริสต์มาสล่ะ นั่นคือ คริสต์มาสบอลสีทอง และคริสต์มาสบอลสีเงิน (The Silver Ball) จากนั้นปล่อยให้แห้ง ตกแต่งด้วยริบบิ้นสีเขียว สีแดง สีทอง หรือสีเงินได้ตามความชอบ เพิ่มความแวววาวด้วยการติดกระดิ่งสีทองเล็ก ๆ เพียงเท่านี้ก็ได้คริสต์มาสบอลที่ง่ายและสวยเก๋แล้ว หรือน้อง ๆ คนไหนต้องการทาสีลงบนลูกบอลโดยที่ไม่ต้องทากาวก็สามารถทำได้เช่นกัน วาดรูปหรือระบายสีที่ชอบบนลูกบอลของตัวเองได้เลย

6. หมวกคริสต์มาส

วิธีประดิษฐ์หมวกคริสต์มาสคือให้นำกระดาษแข็งมาวาดรูป ระบายสี หรือตัดกระดาษหลายสีมาแปะได้ตามจินตนาการ จากนั้นให้ตัดกระดาษเป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดที่ชอบแล้วม้วนเป็นรูปกรวย ทากาวปิดรอยต่อให้เรียบร้อยเพื่อป้องกันกระดาษคลายตัว พร้อมร้อยเชือกไว้ที่ปลายหมวก หากต้องการตกแต่งเพิ่มเติมก็สามารถหาริบบิ้นสีเงิน สีทอง หรือสีแดงมาพันรอบหมวกได้

7. โมบายคริสต์มาส

นำกระดาษแข็งมาวาดรูปตามต้องการ เช่น รูปตุ๊กตาหิมะ, กวางเรนเดียร์, นางฟ้าแฟรี่ หรือซานต้า จากนั้นระบายสี และตัดกระดาษออกมา เจาะรูไว้ด้านล่างและด้านบน เพื่อร้อยเชือกปอสำหรับแขวน และสำหรับนำกระดาษรูปต่อไปมาผูกเป็นโมบายต่อชั้นลงไป สามารถตกแต่งด้วยกระดิ่งแล้วนำไปแขวนหน้าบ้าน หรือต้นคริสต์มาสได้ หรืออีกหนึ่งไอเดียคือการทำเครื่องรางป้องกันฝันร้าย Dreamcatcher จากคลิปวิดีโอนี้ ซึ่งเป็นคลิปวิดีโอระดับง่ายสำหรับน้อง ๆ อายุตั้งแต่ 9 ขวบ และใช้เวลาทำไม่นานสามารถทำตามได้เลย

8. พวงมาลัยคริสต์มาส

ให้นำกระดาษ ผ้า หรือริบบิ้นสีเขียวและสีแดง มาตัดเป็นแถบความกว้างประมาณ 3 เซนติเมตร จากนั้นนำแถบสีแดงและสีเขียวมาติดเข้าด้วยกันแบบให้สีแดงและสีเขียวตั้งฉากกัน 90 องศา จากนั้นพับแถบด้านล่างกดเบา ๆ ให้คงรูปทรง 90 องศาแบบตั้งฉากเอาไว้ พับแบบนี้ทบไปทบมา จนหมดแถบกระดาษที่ตัดมา ติดกาวหรือใช้ที่เย็บกระดาษปิดรอยบรรจบกัน เมื่อคลี่แถบกระดาษออกมาจะกลายเป็นพวงมาลัยคริสต์มาสสีเขียวสลับแดง

9. ตุ๊กตาหิมะ

ให้นำลูกบอลขนาดเล็กและขนาดใหญ่มาติดกาวเข้าด้วยกัน ทำเป็นส่วนหัวและลำตัว จากนั้นให้ทาด้วยสีขาว หรือจะทากาวและกลิ้งบนกากเพชรก็ตามความชอบใจ แต่งเติมดวงตาและรอยยิ้มให้สโนว์แมนสักหน่อย จากนั้นนำผ้าหรือริบบิ้นสีแดงมาพันตรงรอยต่อของลูกบอล ทำเป็นผ้าพันคอ อาจจะประดิษฐ์หมวกคริสต์มาสอันเล็ก ๆ ติดให้ด้วยก็ได้ เตรียมร้อยเชือกและนำไปแขวนได้เลย

10. โหลแก้วหิมะ

มีไอเดียมาจากบอลหิมะ แต่เราจะใช้วัสดุใกล้ตัวที่น้อง ๆ สามารถหาได้ที่บ้าน โดยผู้ปกครองสามารถหาโหลแก้วใสที่ไม่ใช้งานแล้วที่บ้านมาให้น้อง ๆ จากนั้นโรยด้วยโฟมหลากสีเม็ดเล็ก ๆ ลงไป หรือจะเป็นโฟมสีขาวแทนเกล็ดหิมะก็ได้เช่นกัน นำตุ๊กตาแซนต้าสีแดง หรือต้นคริสต์มาสพลาสติกสีเขียวไปวางไว้ตรงกลาง จากปิดฝาขวดโหลแล้วพันด้วยริบบี้นสีเขียว หรือสีแดง นำไปวางไว้กลางโต๊ะอาหารสำหรับเพิ่มบรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลอง

การประดิษฐ์ของตกแต่งคริสต์มาสด้วยตัวเองมีประโยชน์อย่างไร

              คุณพ่อ คุณแม่ และผู้ปกครองทราบหรือไม่ว่า การจัดห้องทำงานให้น้อง ๆ ได้ลงมือประดิษฐ์ของตกแต่งต้นคริสต์มาสด้วยตัวเองนั้น มีประโยชน์สำหรับน้อง ๆ มากมาย อันดับแรกการที่น้องได้จับกรรไกรตัดกระดาษ การได้ขีดเขียน หรือวาดรูปต่าง ๆ เป็นการฝึกกล้ามเนื้อมัดเล็กที่มือและนิ้วของน้อง ๆ ให้มีพัฒนาการสามารถควบคุมการหยิบจับสิ่งของชิ้นเล็ก หรือแก้วน้ำได้เร็วขึ้น

              ต่อมาการได้ออกแบบวาดรูปและระบายสีเป็นรูปต่าง ๆ โดยที่ไม่มีถูกและผิด จะช่วยพัฒนา IQ ของน้อง ๆ ให้สร้างสรรค์จินตนาการและคิดไอเดียต่าง ๆ ได้อย่างไรขีดจำกัด ส่วนการที่น้อง ๆ ได้ร้อยเชือก เจาะรู หรือทากาว รวมไปถึงการรอคอยให้กาวแห้ง จะพัฒนา EQ หรือความฉลาดทางอารมณ์ของน้อง ๆ ให้รู้จักการรอคอย และรู้จักการค่อย ๆ ทำงานอย่างมีสติและใจเย็น และสำหรับผู้ปกครองที่ต้องการร่วมกิจกรรมสนุก ๆ แบบนี้กับน้อง ๆ อีก สามารถทำตามวิธีประดิษฐ์ของตกแต่งเทศกาลคริสต์มาสนี้ได้เลย

เรียบร้อยแล้วกับ 10 สิ่งประดิษฐ์สำหรับตกแต่งวันคริสต์มาส ที่น้อง ๆ สามารถทำได้ด้วยตัวเอง ทั้งการออกแบบ การวาดรูป และการระบายสี โดยที่ผู้ปกครองสามารถคอยให้ความช่วยเหลือในการจับมือน้อง ๆ วาดรูป ช่วยหาวัสดุสิ่งของ และช่วยให้คำปรึกษา กิจกรรมนี้จะช่วยเพิ่มความอบอุ่นและความใกล้ชิดให้แก่ครอบครัว โดยที่ไม่รู้สึกมีความเครียดหรือความกดดันใด ๆ เพราะงานศิลปะคืองานที่ช่วยผ่อนคลายอารมณ์และความเครียดต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังช่วยให้น้อง ๆ มีพัฒนาการต่าง ๆ เร็วขึ้นด้วย